เกมที่ เอทีแอนด์ที สเตเดี้ยม, เวเนซูเอล่า นำทัพโดย ซาโลมอน รอนดอน กองหน้าตัวเก๋าที่ปักหลักหัวหอก โดยมี คริสเตียน กาสเซเรส, เอดูอาร์ด เบโย่ และ เจฟเฟร์ซอน โซเตลโด้ คอยช่วย ด้าน แคนาดา นำทัพโดย โจนาธาน ดาวิด และ อัลฟอนโซ่ เดวิส สองสตาร์คนดังคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เปิดฉากมาถึงนาที 13 เป็น แคนาดา ที่มาได้ประตูขึ้นนำจังหวะเกมรุกขึ้นมาในเขตโทษด้านขวา โจนาธาน เดวิด บอลมาถึง เจค็อบ ชาฟเฟลเบิร์ก ตวัดยิงด้วยขวาที่เสาแรกเข้าไปเป็น 1-0
มาถึงนาทีที่ 24 ทัพ แคนาดา เกือบได้ประตูเพิ่มจากจังหวะสับไกของ เจค็อบ ชาฟเฟลเบิร์ก บอลพุ่งไปที่เสาขวามือแต่ ราฟาเอล โรโม่ เซฟได้เยี่ยม
โอกาสอีกครั้งของทาง แคนาดา นาทีที่ 31 จังหวะที่ เวเนซูเอล่า เคลียร์ไม่ขาดบอลมาถึง ริชี่ บาร์เยีย ได้ยิงแต่ข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรก แคนาดา ยังนำ 1-0
เข้าครึ่งหลังนาทีที่ 53 แคนาดา เกือบบวกประตูเพิ่มจากบอลเปิดเข้าเขตโทษ ไคล์ ลาริน ได้ยิงบอลข้ามคนไปอย่างน่าเสียดาย
เวเนซูเอล่า เริ่มตั้งเกมได้ดีขึ้นจนมาตามตีเสมอได้สำเร็จนาที 65 ที่ แคนาดา ได้เตะมุม จอน อารามบูรู เคลียร์ยาวออกมา ซาโลมอน รอนดอน เบียดเอาบอลได้และฉวยโอกาสที่ มักซีม เกรโป ออกมาไกลจากเส้นประตูยิงไกลกว่า 40 หลาบอลเข้าไป สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1
นาทีที่ 86 แคนาดา เกือบได้ประตูชัยจาก อลิสแตร์ จอห์นสตัน ที่ดันเกมสูงขึ้นมาได้ยิงโล่งๆ แต่ ราฟาเอล โรโม่ เซฟ ได้เยี่ยม จบเกมเสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษและเป็น แคนาดา แม่นกว่าเอาชนะไปได้ 4-3 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบกับ อาร์เจนติน่า โดยจะเล่นกันช่วงเช้าวันพุธที่ 10 กรกฏาคม ตามเวลาในประเทศไทย